ญี่ปุ่นเป็นสถานที่ที่ประเพณีโบราณและเทคโนโลยีล้ำสมัยอยู่เคียงข้างกันอย่างลงตัว คุณสามารถหาซื้อราเมงริมถนนที่สว่างไสวด้วยไฟนีออนในโตเกียวในวันหนึ่ง แล้วไปค้นหาความสงบในวัดที่เงียบสงบแห่งหนึ่งในเกียวโตในวันถัดไป ญี่ปุ่นไม่ใช่แค่ประเทศ แต่มันคือประสบการณ์ที่น่าจดจำ
ญี่ปุ่นกลายเป็นจุดหมายยอดนิยมสำหรับชาวต่างชาติ: ตอนท้ายปี 2024 มีชาวต่างชาติอาศัยอยู่กว่า 3.75 ล้านคน หลายคนโดนดึงดูดด้วยระบบสาธารณสุขคุณภาพสูง อัตราอาชญากรต่ำ และวัฒนธรรมที่หลากหลาย แม้ชาวอเมริกันจะยังเป็นส่วนน้อย แต่ก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
หากคุณกำลังวางแผนย้ายมาญี่ปุ่นในปี 2025 มีหลายสิ่งที่ต้องคิด Remitly เข้าใจดีว่าการเริ่มต้นใหม่อาจทำให้รู้สึกหนักใจ ดังนั้นเราจึงจัดทำคู่มือนี้เพื่อให้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับวีซ่า ที่อยู่อาศัย กิจวัตรประจำวัน และวิธีจัดการเงินระหว่างสองประเทศ
ทำความเข้าใจกับตัวเลือกวีซ่า
ขั้นแรกคือการยื่นขอวีซ่าที่เหมาะสม ญี่ปุ่นมีหลายประเภท ซึ่งในปี 2025 ได้แก่:
-
วีซ่าทำงาน เช่น “วิศวกร/นักมนุษยศาสตร์/บริการระหว่างประเทศ” หรือ “ย้ายระหว่างบริษัท” โดยทั่วไปต้องมีนายจ้างญี่ปุ่นสนับสนุน
-
วีซ่าพนักงานมีทักษะเฉพาะ มีสองแบบ: Type 1 (พักได้ไม่เกิน 5 ปี, ต้องมีภาษา) และ Type 2 (ไม่มีจำกัดเวลา, แต่ต้องต่ออายุ)
-
วีซ่า Highly Skilled Professional (HSP) ระบบจุดคะแนนสำหรับคนที่มีทักษะและคุณวุฒิขั้นสูง
-
วีซ่าสตาร์ทอัพ ที่เทศบาลบางแห่งให้แก่ผู้ประกอบการต่างชาติ ต้องมีแผนธุรกิจที่ผ่านการรับรอง
-
วีซ่า Working Holiday สำหรับวัย 18–30 จากประเทศที่กำหนด เช็กได้ที่เว็บไซต์ MOFA
-
วีซ่า J-Find (เริ่มปี 2023) ดึงดูดบัณฑิตใหม่จากมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วโลก
-
วีซ่า J-Skip หมวด HSP รุ่นใหม่ สำหรับผู้มีรายได้เกิน 20 ล้านเยนต่อปี หรือผู้จบป.โท มีโอกาสได้พำนักถาวรใน 1 ปี
เกณฑ์คุณสมบัติหลัก
-
วีซ่าทำงาน: ต้องมีสัญญาจ้างนายจ้างญี่ปุ่น ปริญญาที่เกี่ยวข้องหรือประสบการณ์ รวมถึงทักษะภาษาญี่ปุ่นในบางกรณี
-
HSP: คะแนน ≥ 70 จากการศึกษา ประสบการณ์ เงินเดือน งานวิจัย และภาษา
-
Startup: ต้องมีแผนธุรกิจผ่านจากเทศบาล
เอกสาร & กระบวนการสมัคร
ต้องใช้: พาสปอร์ต, ฟอร์มสมัคร, รูปถ่าย, เอกสารเฉพาะ เช่น สัญญาจ้าง ใบรับรองการศึกษา
เอกสารสำคัญคือ Certificate of Eligibility (CoE) ซึ่งสปอนเซอร์ (นายจ้าง/สถาบัน) จะยื่นเรื่องตัวแทนตรวจคนเข้าเมืองญี่ปุ่น หลังได้รับ CoE แล้วคุณก็ยื่นที่สถานทูต/กงสุลญี่ปุ่นในประเทศของคุณ
เคล็ดลับสำหรับปี 2025
-
เวลาประมวลผลแตกต่างกัน ควรสมัครล่วงหน้า
-
ตรวจสอบ MOFA และสถานทูต/กงสุลญี่ปุ่นประจำประเทศของคุณ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อเช็กข้อมูลล่าสุด เช่น วิธีสมัครออนไลน์
ประมาณการค่าใช้จ่ายในการย้าย
รวมถึง: ค่าวีซ่า, ค่าตั๋วเครื่องบิน, ค่าส่งของ, ค่าที่พักช่วงแรก
ค่าใช้จ่ายขึ้นอยู่กับจุดเริ่มต้นและปริมาณของที่จะส่ง การเดินทางช่วงฤดูดอกซากุระหรือเทศกาลสามารถเพิ่มค่าใช้จ่าย
เคล็ดลับประหยัด:
-
เดินทางช่วงนอกฤดูท่องเที่ยว
-
ส่งของให้น้อยลง และซื้อเฟอร์นิเจอร์ในญี่ปุ่น
-
เข้ากลุ่ม expat เพื่อหาเคล็ดลับที่พักราคาประหยัดหรือแชร์ค่าขนส่ง
รายการค่าใช้จ่ายคาดหวัง:
วีซ่า, ตั๋ว, ค่าส่งของ, ที่พักช่วงแรก (2–4 สัปดาห์), ค่ามัดจำเช่าระยะยาว (รวม key money, security deposit, ค่าบริการเอเจนต์), เงินสำหรับเลี้ยงชีพก่อนรับเงินเดือน, ค่าน้ำไฟ เฟอร์นิเจอร์จำเป็น, กองทุนฉุกเฉิน
การหาที่พักในญี่ปุ่น
ญี่ปุ่นมีตลาดเช่าที่มีธรรมเนียมเฉพาะ:
-
ใช้ตัวแทนหรือบริการเช่าที่เชี่ยวชาญกับชาวต่างชาติ
-
ระวังค่า key money (เงินพิเศษฝากเจ้าของบ้าน), มัดจำ และค่าตัวแทน (โดยทั่วไปเท่ากับค่าเช่าหนึ่งเดือนบวกภาษี)
-
บางแห่งต้องมีผู้ค้ำชาวญี่ปุ่น – มีบริการบริษัทค้ำให้ได้
-
ชุมชน expat อย่าง GaijinPot มีประโยชน์มาก
-
สำหรับผู้สนใจซื้ออสังหาฯ ดู “Buying Property in Japan: Your 2025 Guide for Foreigners”
ภูมิภาคที่เหมาะกับ expat ตามไลฟ์สไตล์
-
โตเกียว: เหมาะกับคนหนุ่มสาวสายงานโอกาส
-
เกียวโต: สำหรับคนรักวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ หรือผู้ที่ต้องการชีวิตที่ไม่วุ่นวาย
-
โอซาก้า: เมืองใหญ่และบรรยากาศคึกคัก
-
ฟุกุโอกะ: คุณภาพชีวิตดี เริ่มมี scene เทค-สตาร์ทอัพ
-
โยโกฮามะ: เมืองท่าใกล้โตเกียว บรรยากาศสบาย ๆ และเป็นนานาชาติ
การจัดการชีวิตประจำวัน
-
เปิดบัญชีธนาคาร: ธนาคารแนะนำ: MUFG, SMBC, Mizuho, Japan Post Bank
ต้องใช้: บัตรพำนัก (Residence/Zairyu Card), passport, หมายเลขโทรศัพท์ญี่ปุ่น, seal (inkan/hanko) หรือเซ็นชื่อ
บางแห่งเพิ่มบริการออนไลน์ และเมื่อบัญชีพร้อมคุณสามารถโอนเงินระหว่างประเทศผ่าน Remitly ได้ง่ายขึ้น -
ระบบคมนาคม:
เมืองใหญ่ใช้รถไฟและรถไฟใต้ดินของ JR และสายเอกชน
ใช้บัตรเติมเงิน (Suica, Pasmo, ICOCA) สำหรับขึ้นรถและซื้อของ
ชินกันเซ็น (รถไฟหัวกระสุน) เชื่อมเมืองสำคัญอย่างรวดเร็วและสะดวก
หากต้องการขับรถ: ใช้ International Driving Permit (ตามเจนีวาปี 1949) ได้ 1 ปี จากนั้นต้องแปลงใบขับขี่ หรือขอใบขับขี่ญี่ปุ่น ขึ้นกับประเทศต้นทาง (เช่น สหรัฐฯ/แคนาดาอาจมีการสอบเพิ่มเติม)
ค่าครองชีพในญี่ปุ่น
แปรผันตามภูมิภาค – โตเกียว มีค่าใช้จ่ายสูงที่สุดในโลก
อัตราแลกเปลี่ยนโดยประมาณ ณ เวลานั้น: 1 USD ≈ 144 JPY
ค่าใช้จ่ายรายเดือนทั่วไป:
-
เช่าบ้าน (โตเกียว): 100,000–200,000 JPY+ / (เมืองเล็ก): 40,000–80,000 JPY
-
ค่าน้ำ-ไฟ: 10,000–15,000 JPY
-
ค่าอาหาร: 40,000–60,000 JPY (มากขึ้นหากกินนอกบ้านบ่อย หรือซื้อของนำเข้า)
-
ค่าขนส่ง: 8,000–15,000 JPY
-
อินเทอร์เน็ต/โทรศัพท์: 7,000–12,000 JPY
โตเกียวเปรียบเทียบกับนิวยอร์กหรือซานฟรานซิสโกได้ ด้านค่าที่อยู่อาศัย
เมืองเล็กบางแห่งใกล้เคียงกับเมืองขนาดกลางในอเมริกาเหนือ
ของสดโดยเฉพาะผลไม้มีราคาสูงกว่า
เคล็ดลับประหยัดชีวิต:
-
เลือกซื้อในซูเปอร์มาร์เก็ตท้องถิ่นและช้อปปิ้ง Street (shotengai)
-
ใช้ร้าน 100 เยนเพื่อซื้อของใช้ในครัว
-
ทำอาหารที่บ้านบ่อยขึ้น
-
ใช้ระบบขนส่งสาธารณะที่สะดวกและราคาถูก
มารยาทและวัฒนธรรมประจำวัน
-
โค้งคำนับ (ojigi): ใช้ทักทาย ขอบคุณ หรือขอโทษ ระดับความลึกต่างกันตามสถานการณ์
-
ถอดรองเท้า: เมื่อเข้าในบ้าน วัด ร้านอาหารแบบญี่ปุ่น และสถานที่ดั้งเดิม
-
มารยาทในรถไฟ: ห้ามพูดโทรศัพท์เสียงดัง และต่อแถวอย่างเรียบร้อย
-
การให้ของขวัญ: พกความประณีตในการห่อของขวัญเป็นเรื่องสำคัญ
-
มารยาทใช้ตะเกียบ: หลีกเลี่ยงการปักตะเกียบตั้งตรงในข้าว
การเรียนรู้ภาษาญี่ปุ่นพื้นฐาน
คนญี่ปุ่นสุภาพและเข้าใจถ้าชาวต่างชาติพลาดมารยาทเล็กน้อย ทัศนคติที่เคารพและพยายามเรียนรู้จะได้รับการชื่นชม
แม้ภาษาอังกฤษจะใช้ได้ในบางสถานที่ แต่การรู้ภาษาญี่ปุ่นขั้นพื้นฐานช่วยทำให้ชีวิตในประจำวันง่ายขึ้นและแสดงความเคารพต่อวัฒนธรรม
โอกาสทำงานในญี่ปุ่น
ญี่ปุ่นมีโอกาสหลากหลายสำหรับชาวต่างชาติ โดยเฉพาะใน:
-
การสอนภาษาอังกฤษ (โรงเรียนรัฐบาล, JET Programme, สถาบันภาษาร้านเอกชน)
-
ไอทีและเทคโนโลยี (วิศวกรซอฟต์แวร์, นักพัฒนา, IT specialist)
-
วิศวกรรมและการผลิต (ยานยนต์, อิเล็กทรอนิกส์)
-
การเงิน (บริษัทนานาชาติโดยเฉพาะในโตเกียว)
-
การโรงแรมและการท่องเที่ยว
แนวโน้มการทำงานทางไกล
งานแบบ remote เริ่มเป็นที่นิยม และมีการพูดถึง Digital Nomad Visa ซึ่งรองรับผู้ที่ทำงานออนไลน์ให้บริษัทต่างประเทศ
การสำรวจบ้านใหม่
เมื่อคุณตั้งหลักได้ ก็ถึงเวลาออกสำรวจญี่ปุ่น ตั้งแต่แหล่งประวัติศาสตร์ เช่น ฟุชิมิ อินาริ ไท샤 ไปจนถึงย่านทันสมัยที่ชิบุย่า ไม่ว่าคุณอยู่ส่วนไหนของญี่ปุ่น ก็ลองแวะชมชายหาดสีฟ้าของโอกินาว่า, ยอดเขาสีขาวและบ่อน้ำร้อนของฮอกไกโด, วิวภูเขาไฟฟูจิ และอีกมากมาย การเตรียมพร้อมที่ดีทำให้การผจญภัยในญี่ปุ่นอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
-
อากาศตลอดทั้งปีในญี่ปุ่นเป็นอย่างไร?
มี 4 ฤดูชัดเจน:
– ฤดูใบไม้ผลิ: อากาศเย็นสบาย ดอกซากุระบาน
– ฤดูร้อน: ร้อนชื้นและฝนประจำฤดูกาล
– ฤดูใบไม้ร่วง: อากาศเย็น ใบไม้เปลี่ยนสีสวยงาม
– ฤดูหนาว: หนาวจัด โดยเฉพาะในพื้นที่ตอนเหนือและภูเขาที่มีหิมะมาก -
การขอพำนักถาวรในญี่ปุ่นยากไหม?
โดยทั่วไปต้องอาศัยอยู่ต่อเนื่อง 10 ปี แต่มักลดเหลือเร็วกว่าได้สำหรับผู้สมรสคนญี่ปุ่นหรือผู้มีวีซ่า HSP (1–3 ปี) และผู้สมัครต้องมีประวัติดีและฐานะการเงินมั่นคง -
นักเดินทางดิจิทัลสามารถอาศัยและทำงานในญี่ปุ่นได้ไหม?
ญี่ปุ่นได้เปิด Digital Nomad Visa โดยอนุญาตให้พักได้นานถึง 6 เดือน สำหรับคนทำงานออนไลน์ให้บริษัทต่างประเทศ โดยมีรายได้ขั้นต่ำประมาณ 10 ล้านเยนต่อปี (~70,000 USD) โดยต้องเช็กเงื่อนไขล่าสุดจาก MOFA