หลักฐานรายได้คืออะไร? | ใช้ในสถานการณ์ไหนบ้าง

หลักฐานแสดงรายได้: คืออะไรและใช้ทำอะไรได้บ้าง

หลักฐานรายได้คืออะไร? ใช้เพื่ออะไร และต้องมีอะไรประกอบบ้าง

What is proof of income: entrepreneur checking their income statement
Post Author:
ทีมบรรณาธิการของ Remitly เป็นกลุ่มนักเขียนและบรรณาธิการจากนานาชาติที่มีความหลากหลาย เชี่ยวชาญด้านการเงิน การย้ายถิ่นฐาน และวัฒนธรรมทั่วโลก เรามีเนื้อหาที่แม่นยำและทันสมัยเพื่อช่วยในการโอนเงิน การใช้ชีวิตในต่างประเทศ และอื่นๆ

เอกสารพิสูจน์รายได้: 9 วิธีในการแสดงรายได้ของคุณ

คุณเก็บเงินมาได้ระยะหนึ่งและพร้อมที่จะวางเงินมัดจำสำหรับอพาร์ตเมนต์หรือบ้านเช่าใหม่แล้ว — แต่ผู้จัดการอสังหาริมทรัพย์ขอให้คุณแสดงหลักฐานรายได้ก่อน

การเช่าอพาร์ตเมนต์เป็นเพียงหนึ่งในสถานการณ์ที่คุณอาจต้องแสดงเอกสารพิสูจน์รายได้ ธนาคาร บริษัทสาธารณูปโภค และบริษัทบัตรเครดิต ก็อาจต้องการตรวจสอบรายได้ของคุณก่อนให้เปิดบัญชีเช่นกัน

นอกจากนี้ ยังมีวีซ่าบางประเภทที่ต้องการรายได้ขั้นต่ำ เช่น วีซ่าผู้เกษียณในปานามา

หลักฐานรายได้คือเอกสารที่แสดงว่าคุณมีรายได้เท่าใดในช่วงระยะเวลาหนึ่ง โดยทั่วไปแล้วจะใช้แสดงว่าคุณมีแหล่งรายได้สม่ำเสมอ

เอกสารเหล่านี้อาจรวมถึงรายการเดินบัญชีเงินฝาก สลิปเงินเดือน แบบฟอร์มภาษี และเอกสารทางกฎหมายอื่น ๆ

เอกสารพิสูจน์รายได้ 9 ประเภทที่พบบ่อย

1. สลิปเงินเดือน

สลิปเงินเดือนเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการแสดงหลักฐานรายได้ เพราะแสดงรายได้ในช่วงระยะเวลาการจ่ายเงิน และรายได้สะสมประจำปี (YTD)

เนื่องจากเป็นเอกสารอย่างเป็นทางการจากนายจ้าง จึงมักเพียงพอที่จะใช้เป็นหลักฐานรายได้โดยไม่ต้องมีเอกสารเพิ่มเติม

อย่างไรก็ตาม หากคุณเพิ่งเริ่มงาน มีหลายอาชีพ หรือมีรายได้จากทิปหรือค่าคอมมิชชันที่ไม่แสดงในสลิปเงินเดือน อาจต้องใช้เอกสารเพิ่มเติม

2. แบบฟอร์มยื่นภาษี

อีกทางเลือกหนึ่งคือการใช้แบบฟอร์มภาษีรายได้ล่าสุด ในสหรัฐอเมริกา นั่นคือแบบฟอร์มที่คุณยื่นกับ IRS

แบบฟอร์มภาษีเป็นวิธีที่น่าเชื่อถือในการแสดงรายได้ เพราะเป็นเอกสารทางกฎหมายที่รวมรายได้จากทั้งแหล่งที่มีค่าตอบแทนและไม่มีค่าตอบแทน

ข้อเสียคือ แบบฟอร์มนี้แสดงรายได้ของปีที่แล้ว และไม่สามารถยืนยันได้ว่าคุณยังทำงานเดิมอยู่หรือไม่

3. รายการเดินบัญชีธนาคาร

รายการเดินบัญชีธนาคารสามารถใช้ประกอบกับเอกสารอื่น ๆ เช่น เพื่อแสดงรายได้จากการประกอบอาชีพอิสระ รายการเดินบัญชีจะแสดงยอดเงินในบัญชีและธุรกรรมที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น

เป็นวิธีที่ดีในการแสดงกระแสเงินเข้าอย่างสม่ำเสมอ เช่น เงินโอนรายเดือนจากลูกค้าหรือนายจ้าง หรือแสดงหลักฐานเงินออมจำนวนมาก

หากคุณกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว ลองสอบถามว่าคุณสามารถให้เฉพาะยอดคงเหลือ หรือปิดบังข้อมูลที่ละเอียดอ่อนได้หรือไม่

4. การชำระเงินตามคำสั่งศาล

การชำระเงินตามคำสั่งศาล ได้แก่ ค่าเลี้ยงดูบุตร หรือเงินสนับสนุนจากอดีตคู่สมรส หากคุณไม่มีเอกสารเหล่านี้อยู่แล้ว คุณสามารถขอจากศาลได้

เอกสารเหล่านี้สามารถช่วยยืนยันว่าคุณสามารถชำระค่าเช่าได้ แม้ว่าคุณจะไม่มีรายได้จากงานประจำ

5. เงินชดเชยการว่างงาน หรือค่าชดเชยแรงงาน

หากคุณไม่ได้ทำงาน แต่ได้รับเงินชดเชยจากการว่างงาน การบาดเจ็บจากการทำงาน หรือเงินประกันทุพพลภาพ คุณสามารถใช้สิ่งเหล่านี้เป็นหลักฐานรายได้ได้

เพียงขอเอกสารจากบริษัทประกัน หน่วยงานรัฐ หรือจากนายจ้างของคุณ

6. การรับเงินบำนาญ หรือสวัสดิการประกันสังคม

สำนักงานประกันสังคม (Social Security Administration) ส่งเงินสวัสดิการรายเดือนให้ผู้เกษียณที่มีสิทธิ์ ส่วนเงินบำนาญพบได้ทั่วไปในกลุ่มอาชีพเช่น ครู ราชการ หรือทหาร

คุณสามารถขอ จดหมายยืนยันสวัสดิการ จากบัญชีออนไลน์ของคุณ หรือใช้แบบฟอร์ม 1099-R (Pension Distribution Statement)

7. งบกำไรขาดทุน

ผู้ประกอบอาชีพอิสระอาจจัดทำเอกสารรายได้ได้ยากกว่า โดยเฉพาะหากรายได้ไม่แน่นอน ตัวอย่างเช่น คุณเป็นนักออกแบบกราฟิกที่ได้รับค่าจ้างตามโปรเจกต์

ในกรณีนี้ คุณสามารถแสดงงบกำไรขาดทุนจากโปรแกรมบัญชีเช่น Wave หรือ Xero หรือใช้รายงานรายได้จากแพลตฟอร์มอย่าง UpWork แม้ว่าเอกสารเหล่านี้ไม่ใช่เอกสารทางกฎหมาย แต่ก็ช่วยแสดงภาพรวมของกระแสรายได้ได้ดี

8. แบบฟอร์ม W-2 หรือ 1099-MISC

คุณสามารถแสดงแบบฟอร์มภาษี W-2 หรือ 1099 ได้เช่นกัน หากคุณยังไม่ได้ยื่นแบบภาษี หรือรายได้ของคุณเปลี่ยนไปตั้งแต่การยื่นครั้งล่าสุด

แบบฟอร์ม W-2 จะมาจากนายจ้างที่จ่ายเงินให้คุณมากกว่า $600 ต่อปี แม้แต่ในงานพาร์ทไทม์

หากคุณมีรายได้จากอาชีพอิสระ คุณควรได้รับแบบฟอร์ม 1099-MISC เมื่อสิ้นปีภาษี

9. จดหมายยืนยันรายได้

หากเอกสารข้างต้นไม่เหมาะสม คุณสามารถขอให้นายจ้างออกจดหมายรับรองรายได้ให้คุณได้

จดหมายนี้จะมีประโยชน์หากคุณมีช่วงเว้นว่างจากการทำงาน เช่น ลางานยาว หรือมีแพ็กเกจเงินเดือนพิเศษที่ไม่แสดงในสลิปเงินเดือน

นายจ้างสามารถยืนยันว่าคุณยังทำงานอยู่ และระบุเงินเดือนหรือระยะเวลาการทำงานได้

วิธีการแสดงหลักฐานรายได้

วิธีการที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับสถานการณ์การจ้างงานและเหตุผลที่ขอเอกสาร

เอกสารพิสูจน์รายได้ควรแสดงชื่อเต็ม วันที่ และข้อมูลอื่น ๆ เช่น หมายเลขประจำตัว หรือหมายเลขประกันสังคม

ผู้ขออาจระบุช่วงเวลาของรายได้ เช่น รายได้ 3 เดือนล่าสุด หรือปีที่ผ่านมา หากคุณมีงานประจำ ควรแสดงรายได้ต่อรอบการจ่ายเงิน

ผู้ประกอบอาชีพอิสระควรแสดงรายได้ย้อนหลังหลายเดือน เพื่อแสดงว่ารายได้มีความมั่นคง

ประเภทของรายได้

ในบางกรณี คุณอาจต้องแยกแยะรายได้ออกเป็นประเภทต่าง ๆ:

  • รายได้จากการทำงาน (Earned income): ได้แก่ ค่าจ้าง เงินเดือน ทิป

  • รายได้ที่ไม่ใช่จากการทำงาน (Unearned income): เช่น ดอกเบี้ยเงินฝาก เงินชดเชยว่างงาน หรือเงินบำนาญ

วีซ่าผู้เกษียณในบางประเทศต้องการหลักฐานรายได้ที่ไม่ใช่จากการทำงาน เพื่อแสดงว่าคุณสามารถเลี้ยงตัวเองได้โดยไม่ต้องมีงานทำ

ที่พักอาศัยและหลักฐานรายได้

แม้จะไม่มีเกณฑ์แน่ชัดเกี่ยวกับรายได้ขั้นต่ำสำหรับผู้เช่า ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าค่าเช่าควรไม่เกิน 30% ของรายได้ต่อเดือน

เจ้าของบ้านต้องการมั่นใจว่าคุณมีรายได้เพียงพอสำหรับจ่ายค่าเช่าและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ

กระบวนการตรวจสอบผู้เช่าอาจรวมถึงการตรวจสอบประวัติหรือตรวจสอบคะแนนเครดิตด้วย ขึ้นอยู่กับกฎหมายของประเทศหรือรัฐ

ต้องการโอนเงินให้ครอบครัวในต่างประเทศใช่ไหม?

Remitly ช่วยให้การโอนเงินระหว่างประเทศเป็นเรื่องง่าย ด้วยแอปพลิเคชันบนมือถือที่สะดวกสบายและโครงสร้างค่าธรรมเนียมที่โปร่งใส ดาวน์โหลดแอปตอนนี้เพื่อเริ่มต้น

อ่านเพิ่มเติม