เมืองปลอดภัยในอเมริกาสำหรับผู้อพยพ | อัปเดตล่าสุด

เมืองที่ปลอดภัยในสหรัฐฯ สำหรับผู้อพยพ: รู้จักก่อนตัดสินใจ

ค้นหาเมืองที่ปลอดภัยและเหมาะกับผู้อพยพในอเมริกา พร้อมข้อมูลน่าอยู่และโอกาสใหม่

Post Author:
ทีมบรรณาธิการของ Remitly เป็นกลุ่มนักเขียนและบรรณาธิการจากนานาชาติที่มีความหลากหลาย เชี่ยวชาญด้านการเงิน การย้ายถิ่นฐาน และวัฒนธรรมทั่วโลก เรามีเนื้อหาที่แม่นยำและทันสมัยเพื่อช่วยในการโอนเงิน การใช้ชีวิตในต่างประเทศ และอื่นๆ

เมืองที่ให้สถานะ “Sanctuary” หรือที่เรียกกันว่า “Sanctuary Cities” ฟังดูน่าค้นหา แต่จริง ๆ แล้วคืออะไร? และมีอยู่กี่แห่งในสหรัฐอเมริกา?

ในคู่มือนี้จาก Remitly, เราจะตอบคำถามเกี่ยวกับเมือง sanctuary รวมถึงข้อเท็จจริงและความเข้าใจผิดที่พบบ่อย

ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับเมือง Sanctuary

เมือง Sanctuary คืออะไร?

เมืองในสหรัฐฯ ที่มีนโยบายจำกัดความร่วมมือกับการบังคับใช้กฎหมายตรวจคนเข้าเมืองของรัฐบาลกลาง

การคุ้มครองหลัก

  • ลดการมีส่วนร่วมของตำรวจท้องถิ่นในการบังคับใช้กฎหมายตรวจคนเข้าเมือง
  • เมืองเหล่านี้ไม่ขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลาง แต่เพียงแค่ไม่ให้ความช่วยเหลืออย่างแข็งขัน

ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเมือง Sanctuary

ความเข้าใจผิด: เมือง sanctuary ปกป้องอาชญากร

ข้อเท็จจริง: เมืองเหล่านี้มุ่งเน้นสร้างความไว้วางใจในชุมชน ซึ่งส่งผลให้มีการรายงานอาชญากรรมและความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่มากขึ้น

ความเข้าใจผิด: ขัดต่อกฎหมายของรัฐบาลกลาง

ข้อเท็จจริง: เมือง sanctuary ทำงานภายใต้กรอบกฎหมายโดยเลือกไม่ใช้งบประมาณท้องถิ่นเพื่อช่วยในการบังคับใช้กฎหมายตรวจคนเข้าเมือง

ความเข้าใจผิด: อัตราอาชญากรรมเพิ่มขึ้น

ข้อเท็จจริง: ไม่มีหลักฐานทางสถิติที่สนับสนุนว่ามีนโยบายนี้แล้วอาชญากรรมจะเพิ่มขึ้น บางงานวิจัยพบว่าอัตราอาชญากรรมอาจลดลงด้วยซ้ำ

ความเข้าใจผิด: เมือง sanctuary ให้ภูมิคุ้มกันทางกฎหมาย

ข้อเท็จจริง: เมืองเหล่านี้ไม่สามารถยับยั้งการเนรเทศได้ พวกเขาเพียงจำกัดการมีส่วนร่วมกับหน่วยงานรัฐบาลกลาง

ความเข้าใจผิด: ได้รับเงินทุนจากรัฐบาลกลาง

ข้อเท็จจริง: เมือง sanctuary ใช้เงินจากท้องถิ่นหรือรัฐ ไม่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลกลางสำหรับนโยบายเหล่านี้โดยเฉพาะ

ประวัติความเป็นมาของเมือง Sanctuary

คำว่า “sanctuary city” เริ่มใช้กันในช่วงทศวรรษ 1980 เมื่อสหรัฐฯ ปฏิเสธผู้ลี้ภัยจากประเทศในอเมริกากลางที่มีสงครามกลางเมือง

ในปี 1982 โบสถ์ในภาคตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐฯ ประกาศตนเป็นสถานที่ปลอดภัยสำหรับผู้ลี้ภัย ต่อมาในปี 1985 เจ้าหน้าที่ในเมืองซานฟรานซิสโกออกมติ “City of Refuge” ห้ามใช้งบประมาณเมืองเพื่อช่วยการบังคับใช้กฎหมายตรวจคนเข้าเมือง

ปัจจุบัน หลายเมือง มณฑล และรัฐ ได้ออกกฎหมายเพื่อปกป้องผู้อพยพ โดยบางแห่งใช้คำว่า “welcoming city” แทนคำว่า “sanctuary city”

เมืองบางแห่งออกบัตรประจำตัวประชาชนให้กับผู้อพยพ และมีแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ช่วยในการหาบริการสาธารณะ

ณ เดือนธันวาคม 2023 ศูนย์ศึกษาด้านการเข้าเมืองพบว่ามีมากกว่า 170 เมืองและมณฑลในสหรัฐฯ ที่มีนโยบาย sanctuary

รายชื่อเมือง Sanctuary

เมืองที่มีนโยบาย sanctuary มีอยู่ทั่วสหรัฐฯ ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ เช่น:

  • New York City, NY
  • San Francisco, CA
  • Seattle, WA
  • Chicago, IL
  • Los Angeles, CA
  • Philadelphia, PA

เมือง Sanctuary ทำงานอย่างไร?

เมืองทั่วไป

หากตำรวจจับผู้ไม่มีเอกสารในเมืองที่ไม่ใช่ sanctuary ตำรวจมักแจ้ง ICE (หน่วยตรวจคนเข้าเมือง) เพื่อมารับตัว

เมือง sanctuary

ตำรวจจะไม่แจ้ง ICE เมื่อจับผู้ไม่มีเอกสารไว้ บุคคลเหล่านี้สามารถได้รับการปล่อยตัวหากข้อกล่าวหาถูกยกเลิกหรือประกันตัวได้

ประโยชน์ต่อการบังคับใช้กฎหมาย

นโยบาย sanctuary ช่วยให้ผู้อพยพไว้ใจเจ้าหน้าที่มากขึ้น พวกเขากล้ารายงานอาชญากรรมและร่วมมือในการสืบสวนมากขึ้น

เจ้าหน้าที่ตำรวจในเมือง sanctuary หลายแห่งสนับสนุนนโยบายนี้ เพราะช่วยให้พวกเขาทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

การคุ้มครองที่มักพบในเมือง Sanctuary

การป้องกันการถูกกักตัวเกินเวลา

ตำรวจจะไม่กักตัวเกินเวลาตามคำสั่งศาล หรือจนกว่าจะประกันตัวได้

ไม่ร่วมมือกับการบุกจับของ ICE

ตำรวจอาจปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือแก่ ICE ระหว่างการตรวจค้น

ไม่มีศูนย์กักตัวของ ICE

บางเมืองห้าม ICE สร้างศูนย์กักกันในพื้นที่

ความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้น

โรงเรียนหรือหน่วยงานต่าง ๆ อาจไม่ถามถึงสถานะการเข้าเมืองของประชาชน

ห้ามเจ้าหน้าที่ ICE เข้าเรือนจำโดยไม่มีหมายศาล

เจ้าหน้าที่ต้องได้รับหมายศาลก่อนเข้าเรือนจำเพื่อควบคุมตัวผู้อพยพ

สิ่งที่เมือง Sanctuary ไม่ได้หมายความถึง

การอาศัยอยู่ในเมือง sanctuary ไม่ได้หมายความว่าผู้อพยพจะไม่ถูกเนรเทศ ICE ยังสามารถจับกุมและส่งกลับประเทศได้

เมืองเหล่านี้เพียงแต่เลือกไม่ให้ความช่วยเหลือโดยตรงกับ ICE

ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกลางและเมือง Sanctuary

รัฐบาลกลางยังสามารถบังคับใช้กฎหมายตรวจคนเข้าเมืองในเมือง sanctuary ได้

ข้อแตกต่างคือ ระดับความร่วมมือของตำรวจท้องถิ่นกับ ICE ซึ่งในเมือง sanctuary มักมีน้อยหรือไม่มีเลย

หากเกิดข้อพิพาทกับรัฐบาลกลาง

รัฐบาลกลางไม่สามารถห้ามเมืองออกนโยบาย sanctuary ได้

แต่ในปี 2017 ประธานาธิบดีทรัมป์เคยพยายามตัดงบสนับสนุนเมือง sanctuary ซึ่งถูกศาลตัดสินว่าผิดกฎหมาย และถูกเพิกถอนในปี 2021 โดยประธานาธิบดีไบเดน

ข้อพิพาทเช่นนี้จะถูกตัดสินในศาลแขวง ศาลอุทธรณ์ หรือแม้กระทั่งศาลฎีกา

ทำไมเมือง Sanctuary เป็นข่าวมากขึ้น?

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นักการเมืองใช้ประเด็นนี้ในการเรียกคะแนนเสียง เช่นในปี 2022 ผู้ว่าการรัฐฟลอริดาและเท็กซัสส่งผู้อพยพไปยังเมือง sanctuary

บางรัฐ เช่น North Dakota ผ่านกฎหมายห้ามเมือง sanctuary ทั้งที่ไม่มีเมืองใดมีนโยบายดังกล่าว

การถกเถียงมักมีข้อมูลผิดพลาด ควรตรวจสอบจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ เช่น เว็บไซต์ของรัฐบาล

เมือง Sanctuary จะเปลี่ยนไปในปี 2024 หรือไม่?

หากมีความพยายามผ่านกฎหมายจำกัดเมือง sanctuary ในระดับรัฐบาลกลาง ก็ยังต้องผ่านสภาสูงซึ่งมีแนวโน้มจะไม่ผ่าน

รัฐบาลไบเดนขอให้เมือง sanctuary เพิ่มความร่วมมือกับ ICE แต่จนถึงกันยายน 2023 ยังไม่มีเมืองใดตอบรับ

สรุปสำหรับผู้อพยพ

ผู้ที่อาศัยในเมือง sanctuary ควรเรียนรู้เกี่ยวกับกฎหมายท้องถิ่นอย่างละเอียด และอัปเดตข่าวสารผ่าน Google News หรือแอปข่าวอื่น ๆ โดยตั้งค่าคำหลักเช่น “sanctuary city” และ “immigration in [CITY NAME]” เพื่อรับข้อมูลล่าสุด