การโอนเงินให้ตัวเองระหว่างประเทศ: วิธีง่าย ๆ ในการเข้าถึงเงินของคุณจากต่างแดน
การจัดการการเงินข้ามพรมแดนอาจดูซับซ้อน แต่การส่งเงินให้ตัวเองไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องยุ่งยาก ไม่ว่าคุณจะย้ายไปต่างประเทศ กำลังเดินทาง หรือมีทรัพย์สินทางการเงินในหลายประเทศ การโอนเงินอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ
แม้การโอนเงินระหว่างบัญชีส่วนตัวในธนาคารเดียวกันจะง่าย แต่การส่งเงินให้ตัวเองในต่างประเทศอาจมีความท้าทายเฉพาะตัว โชคดีที่เทคโนโลยีดิจิทัลและบริการโอนเงินยุคใหม่ช่วยให้กระบวนการนี้ง่ายขึ้น ประหยัดกว่า และเชื่อถือได้มากขึ้น
ต่อไปนี้คือทุกสิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับการโอนเงินให้ตัวเองระหว่างประเทศ พร้อมคำแนะนำที่ใช้งานได้จริง เคล็ดลับ และคำถามที่พบบ่อย
วิธีง่าย ๆ 2 วิธีในการเข้าถึงเงินของคุณในต่างประเทศ
1. ใช้แอปพลิเคชันโอนเงิน
แอปโอนเงินอย่าง Remitly ได้เปลี่ยนวิธีการโอนเงินข้ามพรมแดนให้เป็นเรื่องง่ายและรวดเร็ว แอปเหล่านี้ออกแบบมาให้ใช้งานสะดวก และช่วยให้การโอนเงินระหว่างประเทศเป็นเรื่องที่ทุกคนเข้าถึงได้
วิธีใช้งาน
-
ดาวน์โหลดและสมัครสมาชิก: ดาวน์โหลดแอปและสร้างบัญชีฟรี ป้อนข้อมูลพื้นฐาน เช่น ชื่อ อีเมล และตั้งรหัสผ่านที่ปลอดภัย
-
เลือกประเทศต้นทาง: ระบุประเทศที่คุณจะโอนเงินจาก และเชื่อมโยงบัญชีธนาคารในประเทศนั้น
-
เลือกประเทศปลายทาง: เลือกประเทศที่คุณจะรับเงิน และใส่ข้อมูลบัญชีธนาคารที่จำเป็น
-
กรอกจำนวนเงิน: ระบุจำนวนเงินที่ต้องการส่งและเลือกสกุลเงิน แอปส่วนใหญ่นำเสนออัตราแลกเปลี่ยนแบบเรียลไทม์
-
ขั้นตอนสุดท้าย: เลือกวิธีชำระเงิน ตรวจสอบรายละเอียด และยืนยันการโอน
ทำไมจึงเป็นทางเลือกที่ดี
-
รวดเร็ว: การโอนเงินเร็วกว่าธนาคารแบบดั้งเดิม โดยเฉพาะเมื่อใช้บัตรเดบิต
-
ประหยัด: ค่าธรรมเนียมต่ำกว่าธนาคารทั่วไป
-
ยืดหยุ่น: เลือกรูปแบบการรับเงินได้ เช่น ฝากเข้าธนาคาร กระเป๋าเงินดิจิทัล หรือรับเงินสด
เคล็ดลับ: แม้แอปจะแลกเปลี่ยนเงินอัตโนมัติ ควรตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อให้ได้อัตราที่ดีที่สุด
2. ถอนเงินผ่านตู้ ATM หรือบัตรเครดิต
หากคุณพักในต่างประเทศเพียงระยะสั้น การใช้บัตรเดบิตหรือบัตรเครดิตเพื่อถอนเงินสดเป็นทางเลือกที่สะดวก
วิธีใช้งาน
-
ใช้บัตรเดบิตของคุณถอนเงินจากตู้ ATM ในสกุลเงินท้องถิ่น
-
ตู้ ATM ส่วนใหญ่เชื่อมต่อกับเครือข่ายนานาชาติ เช่น Visa, Mastercard และ Cirrus
-
บัตรเครดิตสามารถใช้งานได้ในต่างประเทศ แต่อาจมีค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม
ข้อดีเมื่อเทียบกับการโอนเงินแบบเดิม
-
สะดวก: ถอนเงินสดได้ตลอดเวลา
-
ค่าธรรมเนียมน้อยกว่า: โดยทั่วไปต่ำกว่าการโอนผ่านธนาคาร
หมายเหตุสำคัญ: แจ้งธนาคารของคุณก่อนเดินทางเพื่อหลีกเลี่ยงการอายัดบัญชี และตรวจสอบว่ามีพันธมิตรในต่างประเทศหรือไม่เพื่อการถอนเงินฟรี
วิธีรับเงินที่คุณโอนให้ตัวเอง
หลังจากโอนเงินแล้ว วิธีที่คุณจะรับเงินขึ้นอยู่กับช่องทางการรับที่คุณเลือก ต่อไปนี้คือทางเลือกทั่วไปในการรับเงินระหว่างประเทศ
ฝากเข้าบัญชีธนาคาร
เป็นวิธีง่าย ๆ ที่ให้คุณโอนเงินระหว่างบัญชีส่วนตัวในประเทศต่าง ๆ เพียงให้ชื่อธนาคารปลายทาง หมายเลขบัญชี และรหัสสถาบัน
ฝากเข้ากระเป๋าเงินดิจิทัล
สำหรับผู้ใช้ที่ถนัดเทคโนโลยี กระเป๋าเงินดิจิทัลอย่าง Apple Pay, Google Pay หรือ Orange Money ช่วยให้รับเงินได้สะดวก ใช้จ่ายค่าของชำ หรือแบ่งค่าใช้จ่ายได้โดยไม่ใช้เงินสด
รับเงินสด
หากอยู่ในพื้นที่ที่ระบบธนาคารไม่ครอบคลุม การรับเงินสดเป็นตัวเลือกที่ดี หลายแอปโอนเงินให้คุณเลือกรับเงินสดจากพันธมิตรกว่า 1,000 แห่ง เช่น ร้านค้า โรงรับจำนำ หรือธนาคาร
เคล็ดลับ: ตรวจสอบเวลาทำการของจุดรับเงินล่วงหน้าเพื่อหลีกเลี่ยงความไม่สะดวก
คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
การส่งเงินให้ตัวเองมีค่าใช้จ่ายเท่าไร?
ค่าธรรมเนียมขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการ ประเทศปลายทาง และจำนวนเงิน แอปอย่าง Remitly แสดงค่าธรรมเนียมและอัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้าอย่างโปร่งใส
หากใช้ ATM หรือบัตรเครดิตในต่างประเทศ ธนาคารของคุณอาจเรียกเก็บค่าธรรมเนียม ตรวจสอบกับสถาบันการเงินของคุณล่วงหน้า
อัตราแลกเปลี่ยนมีผลอย่างไร?
อัตราแลกเปลี่ยนเปลี่ยนแปลงตามตลาดโลก ส่งผลต่อจำนวนเงินที่บัญชีผู้รับจะได้รับ แอปโอนเงินมักให้อัตราที่แข่งขันได้มากกว่าธนาคารหรือร้านแลกเงิน
ต้องใช้ข้อมูลอะไรบ้างในการโอนเงินระหว่างประเทศ?
-
รายละเอียดบัญชีธนาคารของคุณ เช่น หมายเลขบัญชีและชื่อธนาคาร
-
เอกสารระบุตัวตน เช่น พาสปอร์ตหรือเอกสารถิ่นที่อยู่
-
สำหรับการรับเงินสด ให้นำหมายเลขธุรกรรมและบัตรประจำตัวไปด้วย
ใช้แอปอย่าง Venmo หรือ Zelle ได้ไหม?
Venmo และ Zelle เหมาะสำหรับการโอนภายในสหรัฐฯ เท่านั้น สำหรับการโอนเงินระหว่างประเทศ ควรใช้บริการอย่าง Remitly หรือ Wise
การโอนมีข้อจำกัดหรือไม่?
ส่วนใหญ่มีการจำกัดรายวันหรือรายเดือนเพื่อความปลอดภัยและปฏิบัติตามกฎระเบียบ โดยผู้ใช้ที่ยืนยันตัวตนอาจได้รับวงเงินที่สูงขึ้น