เงินบาท: ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสกุลเงินของประเทศไทยในปัจจุบัน

Post Summary

Tayland Bahtı (THB), Tayland’ın resmi para birimidir ve özellikle Güneydoğu Asya’da turizm ve ticarette önemli bir rol oynar. Sembolü ฿ olan THB, 20, 50, 100, 500 ve 1.000 bahtlık banknotlar halinde bulunur. Tayland’a seyahat edenler için ATM’lerde ve döviz bürolarında kolayca değiştirilebilir, ancak döviz işlemleri sırasında güncel kurları kontrol etmek önemlidir. 2024 itibarıyla 1 THB yaklaşık 0,78 TL değerindedir. Tayland’da, paraya zarar vermek kültürel bir saygısızlık olarak görülmektedir. THB hakkında daha fazla bilgi almak ve güncel döviz kurlarıyla ilgili detayları öğrenmek için rehberimize göz atabilirsiniz.

เงินบาท: ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสกุลเงินของประเทศไทยในปัจจุบัน

ประเทศไทยซึ่งเป็นพื้นที่หนึ่งของแผ่นดินใหญ่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีชื่อเสียงด้านอาหารอร่อย ศาสนาสถาน ชายหาดที่สวยงาม และผู้คนที่เป็นมิตร ประเทศไทยนั้นเดิมมีชื่อเรียกว่า สยาม ต่อมาได้ถูกขนานนามอย่างเป็นทางการว่า ราชอาณาจักรไทย โดยมีสกุลเงินที่สร้างสีสันในตลาดอย่างมากคือ สกุล เงินบาท

ธนาคารแห่งประเทศไทยซึ่งตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ เป็นผู้ออกสกุลเงินบาท เรื่องน่ารู้: เงินบาทเป็นหนึ่งใน 12 สกุลเงินที่ใช้บ่อย มากที่สุดของโลก แต่ก่อนที่คุณจะแปลงสกุลเงินไทยเป็นดอลลาร์ หรือแปลงสกุลเงินดอลลาร์เป็นไทย  คุณควรรู้อะไรอีกบ้างเกี่ยวกับระบบสกุลเงินของประเทศไทย

จับตาสกุลเงินทางการของประเทศไทยให้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น รวมถึงการค้นหาอัตราแลกเปลี่ยนที่ดีที่สุดเมื่อแปลงสกุลเงินไทยเป็นดอลลาร์ หรือต้องการส่งเงินมายังประเทศไทย

สกุลเงินไทย

เช่นเดียวกับสกุลเงินอื่น ๆ สกุลเงินของประเทศไทยมีแบบเหรียญและธนบัตร ธนบัตรกระดาษมีราคา 20 บาท 50 บาท 100 บาท 500 บาท และ 1,000 บาท โดยเป็นธนบัตร 100 บาท ที่นิยมใช้กันมากที่สุด

ธนาคารกลางแห่งประเทศไทยแบ่งเงินบาทออกเป็น 100 สตางค์ เหรียญไทยมีราคา 1 บาท 2 บาท 5 บาท 10 บาท 25 สตางค์ และ 50 สตางค์ เหรียญ 10 บาทเป็นเหรียญที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย

สกุลเงินนี้ มักเรียกกันทั่วไปว่า บาทไทย หรือเรียกง่ายๆ ว่า บาท และสัญลักษณ์ของสกุลเงินนี้คือ ตัว B ตัวพิมพ์ใหญ่ซึ่งมีเส้นตั้งฉากลงไปตรงกลาง (฿) คุณสามารถระบุเงินบาทได้ด้วยรหัสสามตัวอักษร THB ในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ

เกร็ดความรู้ เงินบาทไทย

Whether you need to send or exchange Thai baht or just want to learn more about this Southeast Asian currency, have a look at these fascinating facts.

ไม่ว่าคุณจะต้องการโอนเงิน หรือแลกเปลี่ยนเงินบาทไทย หรือเพียงต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสกุลเงินในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ลองมาดูข้อเท็จจริงที่น่าสนใจเหล่านี้

เหยียบเงินไทยผิดกฏหมายหรือไม่

สำหรับในสหรัฐอเมริกา ผู้คนอาจจะไม่ใส่ใจกับธนบัตรและเหรียญมากนัก แต่ในประเทศไทยกลับไม่เป็นเช่นนั้น ประเทศไทยมีกฎหมายภายในประเทศที่เข้มงวดคือ ห้ามการดูหมิ่นสถาบันกษัตริย์ หรือที่เรียกว่า กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ

กฎหมายนี้ห้ามการกระทำด้วยวาจา กายภาพ หรือลายลักษณ์อักษรที่แสดงพฤติกรรมไม่เคารพต่อกษัตริย์หรือสมาชิกในราชวงศ์ เนื่องจากเงินทั้งหมดในประเทศไทยมีรูปเหมือนของกษัตริย์หรือสมาชิกราชวงศ์ที่สิ้นพระชนม์ กฎหมายนี้จึงขยายไปถึงการจัดการเงินตราด้วย

ตัวอย่างพฤติกรรมที่อาจผิดกฎหมายในประเทศไทย ได้แก่

  • เหยียบเหรียญ
  • เหยียบธนบัตร
  • การเผา ฉีก หรือเขียนบนธนบัตร

ในทางกลับกัน ร้านค้าหลายแห่งในประเทศไทยจะจัดแสดงธนบัตรบาทขนาดเล็กเพื่อเป็นสัญลักษณ์แสดงความเคารพต่อพระมหากษัตริย์

ฝ้ายพิเศษใช้ทำเงินบาท

เงินบาททำด้วยไฟเบอร์จากฝ้ายชนิดพิเศษซึ่งออกแบบมาให้ทนทานมากยิ่งขึ้น ที่จริงแล้ว ธนบัตรแต่ละชนิดมีความหนาและความรู้สึกที่แตกต่างกัน ดังนั้น การแยกความแตกต่างของธนบัตรสกุลเงินบาทไทยจึงทำได้ง่าย

ธนาคารแห่งประเทศไทยใช้กระบวนการที่เรียกว่า การพิมพ์แกะ ซึ่งทำให้พิมพ์มีลักษณะนูนขึ้นเล็กน้อย ซึ่งทำให้การสัมผัสทำได้ดีมากเมื่อเปรียบเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ

สิ่งที่ปรากฏเด่นชัดคือ เลขอารบิคและเลขไทย ซึ่งคุณจะเห็นเลขอารบิคที่ซ่อนอยู่ที่มุมซ้ายล่างของธนบัตรแต่ละใบ

ธนบัตรรูปกษัตริย์

ธนบัตรทุกใบของไทยจะมีพระบรมสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ์ กษัตริย์องค์ปัจจุบัน บนธนบัตร 20, 50 และ 100 บาท ธนบัตรราคา 500 และ 1,000 บาท โดยรุ่นล่าสุดผลิตออกมาใช้เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ ในปี 2561

ทั้งนี้ สีและขนาดของธนบัตรยังผลิตเหมือนเดิมเช่นในอดีต โดยด้านหลังของธนบัตร มีพระบรมสาทิสลักษณ์ พระมหากษัตริย์ของไทยตามลำดับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

เงินบาท: ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสกุลเงินของประเทศไทยในปัจจุบัน

ประวัติความเป็นมาของเงินตราประเทศไทย

เงินตราประเทศไทยไม่ได้อยู่ในรูปแบบกระดาษเสมอไป ก่อนที่จะพัฒนามาเป็นธนบัตรสมัยใหม่เช่นในปัจจุบัน ประเทศไทยในอดีตใช้เปลือกหอย เรียกว่า เงินพดด้วง และเหรียญดินเผาแทนเงินเพื่อใช้ ชำระได้ตามกฎหมาย มาก่อน

ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในช่วงศตวรรษที่ 19 ประเทศไทยเปิดเสรีการค้าและสร้างความสัมพันธ์ทางการฑูตกับประเทศตะวันตก การนำเข้าและส่งออกเพิ่มขึ้นอย่างมาก ส่งผลให้เงินพดด้วงไม่เพียงพอต่อความต้องการ

ดังนั้น ในปี 1853 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดเกล้าฯ จึงให้มีการผลิตเงินเป็นกระดาษชุดแรกออกมา เรียกว่า “หมาย” เพื่อสู้กับความต้องการเงินตราที่มีเพิ่มมากขึ้น แต่ยังไม่ประสบผลสำเร็จมากนักในช่วงนั้น เนื่องจากผู้คนยังนิยมใช้เงินพดด้วงแทนสกุลเงินราชการ

นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ประเทศไทยประสบปัญหาการขาดแคลนเงินตราอย่างมากหลายครั้ง เมื่อถึงยุคของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในปี 1873 เหรียญทองแดงที่มีมูลค่าต่ำนั้นเริ่มหายากอย่างไม่น่าเชื่อ มูลค่าของดีบุกและทองแดงในตลาดโลกก็กลับพุ่งสูงกว่ามูลค่าหน้าเหรียญ

เมื่อถึงจุดนั้น ผู้คนเริ่มใช้ “เบี้ยปี้” ซึ่งเป็นสกุลเงินประเภทหนึ่งที่พวกเขาสามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินได้ในโรงบ่อน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงประสงค์หลีกเลี่ยงการใช้เงินชนิดนี้ จึงทรงแนะนำสกุลเงินกระดาษราคาต่ำที่เรียกว่า “อัฐกระดาษ” ขณะรอเหรียญทองแดงจากประเทศอังกฤษ เหล่าผู้นำยกเลิกเงินประเภทนี้ออกจากการหมุนเวียนในปี 1875

เนื่องจากเหรียญไทยไม่สามารถหมุนเวียนได้อย่างเพียงพอต่อความต้องการ รัฐบาลจึงอนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ 3 แห่งดำเนินการออกธนบัตรได้ในปี 1889 ปี 1898 และ 1899

รู้จักอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทไทย

เฉพาะเงินบาทที่สามารถใช้ชำระเงินได้ตามกฎหมายในประเทศไทย ดังนั้น หากคุณต้องเดินทางไปที่นั่นที่นี่ในประเทศไทย คุณจะต้องแลกเงินตราต่างประเทศเป็นเงินบาท ในทำนองเดียวกัน หากคุณส่งเงินมายังประเทศไทย คุณต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่า เงินที่โอนมานั้นเป็นเงินบาท ไม่ใช่ดอลลาร์สหรัฐ (USD) เงินปอนด์อังกฤษ (GBP) หรือยูโร (EUR)

เวลาที่ดีที่สุดในการแลกเปลี่ยนเงินบาทขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของแต่ละคู่ซึ่งมีความผันผวน

หากคุณกำลังแปลงระหว่างเงินดอลลาร์สหรัฐกับบาทไทย คุณจะต้องดูอัตราดอลลาร์สหรัฐ ซึ่ง ณ วันที่ 23 มิถุนายน 2565 ค่าเงินอยู่ที่ 1 ดอลลาร์สหรัฐ เท่ากับ 35.34 บาท

คุณจะได้รับอัตราเงินแลกเปลี่ยนที่แตกต่างออกไปหากคุณแปลงเป็นดอลลาร์แคนาดา (CAD) ดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD) หรือดอลลาร์นิวซีแลนด์ (NZD)

ต่อไปนี้ คือคู่สกุลเงินต่างๆ และจำนวนเงินที่ 1 บาทไทย เทียบเท่ากับอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 23 มิถุนายน 2565

  • 1 บาท = 0.03 ฟรังก์สวิส (CHF)
  • 1 บาท = 2.21 รูปีอินเดีย (INR)
  • 1 บาท = 3.85 เยนญี่ปุ่น (JPY)
  • 1 บาท = 0.15 เรียลบราซิล (BRL)
  • 1 บาท = 25.15 เปโซชิลี (CLP)
  • 1 บาท = 0.19 หยวนจีน (CNY)
  • 1 บาท = 0.53 ปอนด์อียิปต์ (EGP)
  • 1 บาท = 0.22 ดอลลาร์ฮ่องกง (HKD)
  • 1 บาท = 420 รูเปียห์อินโดนีเซีย (IDR)
  • 1 บาท = 0.57 เปโซเม็กซิโก (MXN)
  • 1 บาท = 0.12 ริงกิตมาเลเซีย (MYR)
  • 1 บาท = 5.98 รูปีปากีสถาน (PKR)
  • 1 บาท = 0.13 ซวอตีโปแลนด์ (PLN)
  • 1 บาท = 0.29 โครนาสวีเดน (SEK)

แน่นอนว่า อัตราแลกเปลี่ยนนั้นมีความผันผวนอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น อัตราแลกเปลี่ยนตามค่าเงินเหล่านี้เป็นเพียงภาพรวมของการแปลงสกุลเงินในแต่ละสกุลเงินเท่านั้นซึ่งอิงข้อมูลจาก การรายงานของ CNN

ควรตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนล่าสุดสำหรับค่าเงินในคู่สกุลเงินไทยเป็นดอลลาร์สหรัฐ หรือคู่สกุลเงินอื่นก่อนเริ่มโอนเงินระหว่างประเทศ

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยน ให้ดู คู่มืออัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งคุณสามารถตรวจสอบกับธนาคารหรือบริษัท โอนเงิน ที่คุณชื่นชอบเกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทในปัจจุบันได้

ตัวอย่างเช่น เมื่อคุณใช้ แอป Remitly และเลือกประเทศไทยเป็นจุดหมายในการโอนเงิน คุณสามารถดูอัตราปัจจุบันสำหรับคู่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นเงินบาท หรือคู่สกุลเงินปอนด์เป็นเงินบาท และคู่สกุลเงินอื่น ๆ ได้

การส่งเงินกลับไทย

สกุลเงินของประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงมากมายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เงินบาทไทยถือเป็นหนึ่งในสกุลเงินที่มีการซื้อขายบ่อยมากที่สุดในโลก

หากคุณต้องการส่งเงินให้ครอบครัวและเพื่อนฝูงในประเทศไทย การใช้บริการโอนเงินจะปลอดภัยที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณจะส่งเงินจำนวนมากในคราวเดียว

Remitly มีภารกิจในการทำให้การโอนเงินระหว่างประเทศรวดเร็วยิ่งขึ้น ง่ายขึ้น โปร่งใสยิ่งขึ้น และราคาไม่แพงมากขึ้น ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2011 เป็นต้นมา ผู้คนหลายล้านคนนิยมใช้แอป Remitly เพื่อส่งเงินให้ด้วยความอุ่นใจ

ไปที่หน้าแรก ดาวน์โหลดแอป หรือติดต่อ ศูนย์ช่วยเหลือ เพื่อเริ่มต้นโอนเงิน

เงินบาท: ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสกุลเงินของประเทศไทยในปัจจุบัน

อ่านเพิ่มเติม

About Evelyne Kuo